ฟอร์ด เรนเจอร์ Ford Ranger

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ แกร่ง…เพื่อทุกคน
ฟอร์ด เรนเจอร์ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะตั้งแต่เริ่มเปิดตัว ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่ง ความประณีต และเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ อันล้ำสมัย ฟอร์ด เรนเจอร์ มาพร้อมความประณีต สะดวกสบายระดับรถยนต์นั่ง แต่ยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานความแกร่งสมบุกสมบัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การครอบครองรถกระบะของลูกค้าฟอร์ด

ราคา ฟอร์ด เรนเจอร์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

รุ่น XL

Standard Cab
ราคา All New Ford Ranger Standard Cab 2.2L XL VG Turbo 6MT ราคา 559,000.

Open Cab
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 2.2L XL Turbo 6MT ราคา 599,000.

รุ่น XL+ 

Open Cab
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 2.2L XL Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 649,000.

รุ่น XLS
Open Cab
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 2.2L XLS Turbo 6MT ราคา 659,000.
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 2.2L XLS Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 699,000.
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 2.2L XLS VG Turbo Hi-Rider 6AT ราคา 739,000.
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 2.2L XLS Turbo 4X4 6MT ราคา 759,000.

Double Cab
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 2.2L XLS Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 789,000.

รุ่น XLT
Open Cab
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 2.2L XLT VG Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 749,000.
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 2.2L XLT Turbo Hi-Rider 6AT ราคา 789,000.
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 2.2L XLT VG Turbo 4X4 6MT ราคา 809,000.
ราคา All New Ford Ranger Open Cab 3.2L XLT VG Turbo 4X4 6MT ราคา 859,000.

Double Cab
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 2.2L XLT VG Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 829,000.
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 2.2L XLT VG Turbo Hi-Rider 6AT ราคา 869,000.
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 2.2L XLT VG Turbo 4X4 6MT ราคา 909,000.
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 3.2L XLT VG Turbo 4X4 6MT ราคา 1,019,000.

รุ่น FX4
Double Cab
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 884,000.
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6AT ราคา 924,000.

รุ่น WILDTRAK
Double Cab
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 945,000.
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6AT ราคา 985,000.
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 2.2L VG Turbo 4X4 6MT ราคา 1,090,000.
ราคา All New Ford Ranger Double Cab 3.2L VG Turbo 4X4 6MT ราคา 1,189,000.

อุปกรณ์มาตรฐาน FORD RANGER

รุ่น XL – อุปกรณ์มาตรฐาน :
สแตนดาร์ตแค็บ
– 2.2L VG Turbo 6MT 559,000.-

โอเพ่นแค็บ
– 2.2L Turbo 6MT 599,000.-

รุ่น XL+
โอเพ่นแค็บ
– 2.2L Turbo Hi-Rider 6MT 649,000.-

เครื่องยนต์
– เครื่องยนต์ดีเซล TDCi ขนาด 2.2 มิลลิลิตร พร้อม Turbo Intercooler
กำลังสูงสุด 125 แรงม้า, แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร
– เครื่องยนต์ดีเซล TDCi ขนาด 2.2 มิลลิลิตร พร้อม VG Turbo Intercooler
กำลังสูงสุด 150 แรงม้า, แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร (สำหรับรุ่น VG Turbo )

ขนาดล้อและยาง
– ล้อกระทะเหล็ก 16″ พร้อมยางขนาด 215/70 R16
– ล้ออัลลอย 16″ พร้อมยางขนาด 255/70 R16 (สำหรับรุ่น Hi-Rider)

อุปกรณ์ภายนอก
– กระจังหน้า มือจับประตู และกระจกมองข้าง สีดำ
– กันชนหน้า สีเดียวกับตัวรถ (เฉพาะรุ่นโอเพ่นแค็บ)
– ไฟเลี้ยวข้างตัวรถ

อุปกรณ์ภายในและความสะดวกสบาย
– กระจกมองข้างแบบปรับไฟฟ้า (เฉพาะรุ่นโอเพ่นแค็บ)
– หน้าต่างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบเปิด-ปิดแบบสัมผัสเดียวด้านคนขับ (เฉพาะรุ่นโอเพ่นแค็บ)
– ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร
– ระบบปรับอากาศ
– เซ็นทรัลล็อค
– เบาะนั่งด้านหน้าแบบแถวยาว แยกพับ 60/40 (เฉพาะรุ่นสแตนดาร์ดแค็บ)
– ช่องเก็บของเหนือศรีษะพร้อมไฟอ่านแผนที่ (เฉพาะรุ่นโอเพ่นแค็บ)
– ช่องต่อไฟ 12v จำนวน 2 จุด
– วิทยุ พร้อมช่องต่อ AUX
– ช่องต่อ USB
– ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ

ความปลอดภัย
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า พร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ
– ระบบกุญแจนิรภัย (Immobilizer)

รุ่น XLS – อุปกรณ์มาตรฐาน เพิ่มจากรุ่น XL :
โอเพ่นแค็บ
– 2.2L Turbo 6MT 659,000.-
– 2.2L Turbo Hi-Rider 6MT 699,000.-
– 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6AT 739,000.-
– 2.2L Turbo 4X4 6MT 759,000.-

ดับเบิ้ลแค็บ
– 2.2L Turbo Hi-Rider 6MT 789,000.-

ขนาดล้อและยาง
– ล้ออัลลอย 16″ พร้อมยางขนาด 215/70 R16
– ล้ออัลลอย 16″ พร้อมยางขนาด 255/70 R16 (สำหรับรุ่น Hi-Rider และ 4X4)

อุปกรณ์ภายนอก
– กระจังหน้า และ กระจกมองข้าง สีเงิน
– บันไดข้าง สีดำ (เฉพาะรุ่น Hi-Rider)
– ไฟตัดหมอกหน้า + กันชนหลัง สีเดียวกับตัวรถ

อุปกรณ์ภายในและความสะดวกสบาย
– กุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้
– สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
– เบาะนั่งคนขับปรับระดับ สูง-ต่ำ ได้
– เครื่องเล่น CD/MP3
– ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC
– จอแสดงผลข้อมูลแบบดิจิตอล

ความปลอดภัย
– ระบบป้องกันล้อล็อค ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
– ไฟเบรกดวงที่สาม
– ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
– เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดสำหรับผู้โดยสารแถวหลังทั้ง 3 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่นดับเบิ้ลแค็บ)
– พนักพิงศรีษะสำหรับผู้โดยสารแถวหลังทั้ง 3 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่นดับเบิ้ลแค็บ)
– จุดยึดสำหรับเบาะนั่งเด็ก ISOFIX (เฉพาะรุ่นดับเบิ้ลแค็บ)

รุ่น XLT – อุปกรณ์มาตรฐาน เพิ่มจากรุ่น XLS :
โอเพ่นแค็บ
– 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6MT 749,000.-
– 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6AT 789,000.-
– 2.2L VG Turbo 4X4 6MT 809,000.-
– 3.2L VG Turbo 4X4 6MT 859,000.-

ดับเบิ้ลแค็บ
– 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6MT 829,000.-
– 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6AT 869,000.-
– 2.2L VG Turbo 4X4 6MT 909,000.-
– 3.2L VG Turbo 4X4 6AT 1,019,000.-

เครื่องยนต์
– เครื่องยนต์ดีเซล TDCi ขนาด 2.2 มิลลิลิตร พร้อม VG Turbo Intercooler
กำลังสูงสุด 160 แรงม้า, แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร (สำหรับรุ่น 2.2L)
– เครื่องยนต์ดีเซล TDCi ขนาด 3.2 มิลลิลิตร พร้อม VG Turbo Intercooler
กำลังสูงสุด 200 แรงม้า, แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร (สำหรับรุ่น 3.2L)

ขนาดล้อและยาง
– ล้ออัลลอย 17″ พร้อมยางขนาด 265/65 R17

อุปกรณ์ภายนอก
– กระจังหน้า มือจับประตู และกระจกมองข้าง แบบโครเมียม
– ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์
– บันไดข้าง พร้อมภาพตกแต่งสีเงิน
– ไฟส่องสว่างกระบะท้าย
– กันชนหลัง แบบโครเมียม

อุปกรณ์ภายในและความสะดวกสบาย
– กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
– ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
– ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
– กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
– พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้
– จอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์แบบสีขนาด 4 นิ้ว
– พวงมาลัยพาวเวอร์แบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า EPAS

ความปลอดภัย
– สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง

อุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับรุ่น 4X4
– เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป

รุ่น FX4 – อุปกรณ์มาตรฐาน เพิ่มจากรุ่น XLT :
ดับเบิ้ลแค็บ
– 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6MT 884,000.-
– 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6AT 924,000.-

ขนาดล้อและยาง
– ล้ออัลลอย 18″ พร้อมยางขนาด 265/60 R518

อุปกรณ์ภายนอก
– กระจังหน้า มือจับประตู กระจกมองข้าง และ กันชนหลัง สีดำเงา
– สปอร์ตบาร์แบบท่อ สีดำ
– ราวหลังคา
– พื้นปูกระบะท้าย
– สติกเกอร์ตกแต่งรอบคัน สีดำด้าน

อุปกรณ์ภายในและความสะดวกสบาย
– เบาะหุ้มหนัง แบบ FX4
– พรมทุกที่นั่ง แบบ FX4

รุ่น WILDTRAK – อุปกรณ์มาตรฐาน เพิ่มจากรุ่น FX4 :
ดับเบิ้ลแค็บ
– 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6MT 945,000.-
– 2.2L VG Turbo Hi-Rider 6AT 985,000.-
– 2.2L VG Turbo 4X4 6AT 1,090,000.-
– 3.2L VG Turbo 4X4 6AT 1,189,000.-

อุปกรณ์ภายนอก
– กันชนหน้า-หลัง แบบ Wildtrak
– กระจังหน้า มือจับประตู และ กระจกมองข้าง แบบ Wildtrak
– บันไดข้าง พร้อมภาพตกแต่งสีเงินด้าน
– สปอร์ตบาร์ Wildtrak และราวเสริมขอบกระบะท้าย
– ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ
– ช่องต่อไฟ 12V บนพื้นปูกระบะท้าย

อุปกรณ์ภายในและความสะดวกสบาย
– ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร พร้อมโหมดเปลี่ยนสีได้ 7 โทนสี
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
– เบาะนั่งหุ้มหนัง แบบ Wildtrak
– เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น 3.2L)
– คอนโซลทำความเย็น
– ช่องต่อไฟ 230V
– พรมทุกที่นั่ง แบบ Wildtrak
– หน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
– ช่องต่อ USB เพิ่มเป็น 2 ช่อง (ไม่มีช่องต่อ AUX)
– ระบบกุญแจ My Key

ความปลอดภัย
– ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
– ม่านถุงลมนิรภัย
– ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
– ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA
– ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา HDC (เฉพาะรุ่น 4X4)
– ระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง
– ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ
– ระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน
– กล้องมองหลังขณะถอยจอด
– สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า (เฉพาะรุ่น 3.2L)
– สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า
– สัญญาณกันขโมย
– เฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential
– ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น 3.2L)
– ระบบเตือนการชนด้านหน้า (เฉพาะรุ่น 3.2L)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (เฉพาะรุ่น 3.2L)
– ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (เฉพาะรุ่น 3.2L)
– ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (เฉพาะรุ่น 3.2L)

EXTERIOR ภายนอก FORD RANGER

– รูปลักษณ์ภายนอกของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ บ่อบองถึงสมรรถนะที่เหนือชั้น ดีไซน์ที่ดุดัน และโฉบเฉี่ยวบนท้องถนน สะท้อนถึงความสมบุกสมบัน ของตัวรถและความมั่นใจของผู้ขับขี่

– กระจังหน้าเชื่อมต่อกับไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ ขับเน้นให้ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ดูกว้าง บึกบึน และ แข็งแกร่ง

– เส้นสายบนกระโปรงหน้ารถ ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งและสมบุกสมบัน

INTERIOR ภายใน Ford Ranger

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ดีไซน์ดุดัน ประโยชน์ใช้สอยครบครัน ยกระดับทั้งดีไซน์และการใช้งาน โดยผสมผสานความสมบุกสมบัน เข้ากับการขับขี่ที่นุ่มสบาย ดีไซน์ประณีตและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ให้ผู้ขับขี่ใช้ชีวิตได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น ทั้งในวันทำงานและวันพักผ่อนกับครอบครัว

– ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ สไตล์โฉบเฉี่ยว มาพร้อมกับแผงหน้าปัด ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และรูปลักษณ์ที่ทั้งหรูหราและทันสมัย

– หน้าจอแสดงผล ทีเอฟพี แบบคู่ บนแผงหน้าปัดที่ช่วยแสดงข้อมูลครบครัน

– กล้องมองหลังและสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง

– 4*4 Shift-on-the-fly

– ปลั๊กไฟแบบ 230 โวลต์ พร้อมชาร์จไฟทุกอุปกรณ์ระหว่างเดินทาง

– ดีไซน์ที่เน้นเส้นสายในแนวขวาง ช่วยขับเน้นให้ห้องโดยสารดูกว้างขวาง และ โอ่อ่า

– ภายในใช้วัสดุที่ดูหรูหรา และทนทาน ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย ไม่ต่างจากรถยนต์นั่ง และยังพร้อมลุยทุกงานในสไตล์รถกระบะ

– สร้างมาเพื่อศักยภาพที่เหนือระดับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ กับเครื่องยนต์ดีเซล TDCi 2.2 ลิตรที่แรงสุดกว่าที่เคย และเครื่องยนต์ดีเซล TDCi 3.2 ลิตร ที่ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ผสานกับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) จึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะช่วยให้ทั้งการใช้งานและการเดินทางของคุณ สำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว

– เครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร ที่มอบพละกำลังสูงสุด 125 แรงม้าและ แรงบิด 320 นิวตัน

– เครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค VG Turbo ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ให้ความประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังเดินเครื่องเรียบ นุ่มนวล แต่ยังทรงพลังด้วย พละกำลัง 160 แรงม้า พร้อมแรงบิด 385 นิวตันเมตร

– เครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค VG Turbo ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ รุ่นล่าสุด ที่มีการติดตั้ง ระบบหมุนเวียนไอเสียแบบใหม่ ที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น มอบพละกำลังสูงสุด 200 แรงม้าและแรงบิด 470 นิวตันเมตร สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะ และแรงบิดสูงสุดในการลากจูง

– พวงมาลัยเพาเวอร์ระบบไฟฟ้า (EPAS) ระบบไฟฟ้าช่วยให้พวงมาลัยของฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ มีน้ำหนักเบาช่วยให้การควบคุมง่ายในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ เช่นขณะเข้าจอดรถและเน้น ความแม่นยำในการขับขี่ที่ความเร็วสูง นอกจากนี้ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์รุ่นนี้ยัง ไม่มีปั๊มน้ำมันเป็นส่วนประกอบ จึงทำงานได้เงียบและประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น 3%

– ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา เบรกจะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อต้องการ เพื่อชะลอความเร็วของรถในขณะลงเขา และในสภาวะพื้นผิวถนนที่ท้าทาย ระดับความเร็วจะปรับได้โดยการเหยียบคันเร่งหรือการปรับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนพวงมาลัย

– ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน หมดกังวลกับการไหลของรถเมื่อออกตัวหรือถอยหลังขึ้นเนิน เพราะเบรกจะยังคงทำงานอยู่ถึงสองวินาทีหลังจากที่คุณคลายเท้าจากแป้นเบรกเพื่อเหยียบคันเร่ง

– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบจะตรวจสอบความเร็วและการยึดเกาะถนนของทุกล้อ และเบรกหรืออัตราการเร่งจะทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มอัตราแรงยึดการยึดเกาะพื้น ถนนให้สูงสุดและการป้องกันล้อหมุนฟรี

– ระบบควบคุมการบรรทุกสัมภาระ ระบบจะปรับการทรงตัวของรถ เพื่อให้สัมพันธ์กับน้ำหนักของสัมภาระที่บรรทุก

– ระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง ระบบจะคอยตรวจสถานะของรถในขณะลากจูง และใช้เบรกด้านซ้ายหรือขวา รวมทั้งการผ่อนหรือเร่งแรงบิดของเครื่องยนต์ เพื่อรักษาการทรงตัวของรถในขณะลากจูง

– ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ระบบจะช่วยลดปัจจัยที่อาจทำให้เกิดการพลิกคว่ำของรถ

– ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ระบบจะช่วยรักษาแรงเบรกในกรณีที่มีการหยุดรถอย่างฉุกเฉิน

– นวัตกรรมใหม่ทางเทคโนโลยี ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC™ 2 การทำอะไรได้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกันเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน ด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC™2 ช่วยให้คุณสามารถทำงานไปด้วยในขณะขับรถ โดยที่คุณไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยและละสายตาจากถนน เพียงแค่ออกคำสั่งเสียงง่ายๆ คุณก็สามารถรับสาย โทรออก เปลี่ยนเพลงที่เล่น หรือปรับอุณหภูมิภายในรถ

– หน้าจอแสดงข้อมูล นอกเหนือจากจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว SYNC™2 ยังมีจอ LCD ขนาด 4.2 นิ้วอีกสองจอบนแผงหน้าปัด ซึ่งหน้าจอด้านขวาจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบ SYNC™2 เช่น การตั้งค่าโทรศัพท์และเพลงที่กำลังเล่น ในขณะที่จอด้านซ้ายจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ เช่น อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ทั้งนี้ คุณสามารถดูข้อมูลและเลือกทำรายการโดยการใช้ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย

– ศูนย์กลางความบันเทิง จอสัมผัสของ SYNC™2 มาพร้อมช่อง USB ถึง 2 ช่อง ทำให้คุณสามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือ และใช้งานช่อง USB อีกช่องเพื่อความบันเทิงในระหว่างที่คุณขับรถอยู่ได้ นอกจากนี้ ยังมีช่องเสียบการ์ด SD และช่องต่อสาย RCA เพื่อให้คุณตรวจสอบ ภาพถ่าย หรือแม้แต่วิดีโอได้ โดยคุณไม่จำเป็นจะต้องกลับเข้าไปที่ทำงานหรือกลับไปที่บ้าน

– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ การเดินทางระยะทางไกลเป็นสิ่งที่เหนื่อย ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จึงมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เพื่อให้คุณสามารถตั้งความเร็วตามที่คุณต้องการ และถอนเท้าออกจากคันเร่งเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ และถึงที่หมายแบบไม่เหนื่อยจนเกินไป

– ระบบจำกัดความเร็วแบบปรับได้ บนถนนที่มีการจำกัดความเร็ว การควบคุมความเร็วของรถให้คงที่อาจเป็นเรื่องยากเมื่อขับรถที่สมรรถนะสูงอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ระบบจำกัดความเร็วแบบปรับได้จะช่วยให้คุณรักษาระดับความเร็วที่จำกัดไว้ตามที่กฎหมายกำหนดได้ เพียงแค่คุณตั้งความเร็วสูงสุดไว้เท่านั้น และในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากคุณต้องการใช้ความเร็วเกินจากที่ได้ตั้งไว้ คุณสามารถยกเลิกการจำกัดความเร็วได้เพียงเหยียบคันเร่งให้สุดเท่านั้น

– กล้องมองหลังและสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง การจอดรถในเมืองที่จอแจจะง่ายยิ่งขึ้น ด้วยเบาะนั่งที่สูงและกล้องมองหลังในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ช่วยให้คุณมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังได้ดีขึ้น และสัญญาณเตือนระยะถอยหลังที่ด้านหน้าและหลังรถ จะคอยตรวจจับวัตถุทุกชนิดที่อยู่ในระยะถอย จึงช่วยให้คุณจอดรถได้อย่างมั่นใจ

– เปี่ยมด้วยสมรรถนะ พร้อมรับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะต้องลุยน้ำ บรรทุกสัมภาระหนัก หรือขึ้นลงทางลาดชันสุดวิบากบนพื้นผิวทราย ให้คุณมั่นใจทุกเส้นทางด้วยความสามารถในการลุยน้ำได้ถึง 800 มิลลิเมตร ศักยภาพการลากจูงและบรรทุกสัมภาระหนัก พร้อมด้วยระบบล็อคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้าที่จะช่วยให้งานหนักกลายเป็นเรื่องเบาๆ

– จะบรรทุกหรือลากจูงหนักแค่ไหนก็เอาอยู่ ด้วยศักยภาพในการบรรทุกถึง 1,098 กิโลกรัมและการลากจูงได้ 3,500 กิโลกรัม จะงานหนักแค่ไหน ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ก็เอาอยู่ นอกจากนี้ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวยังช่วยผ่อนน้ำหนักรถยามบรรทุกหรือลากจูงสัมภาระ เพื่อการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้น

– ศักยภาพในการลุยน้ำลึก ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพาคุณไปทุกที่บนบก แต่ยังสามารถพาคุณลุยน้ำลึกถึง 800 มิลลิเมตร ไม่มีงานไหนที่คุณทำไม่ได้อีกแล้ว

– โครงสร้างที่แกร่งและแข็งแรงกว่าเดิม

– 4×4 Shift-on-the-fly สะดวกสบายกับการปรับเปลี่ยนการขับเคลื่อน Shift-on-the-Fly จาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ

– ระบบล็อคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า บอกลาการสูญเสียการควบคุมรถบนทางลาดชัน หรือพื้นผิวทราย เพราะระบบล็อคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้าจะช่วยควบคุมรถบนพื้นผิวที่ท้าทาย ที่ล้อหลังทั้งสองล้ออาจจะไม่สัมผัสพื้นผิวถนน

– ดีไซน์เพื่อทุกไลฟ์สไตล์ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ใหม่สุดล้ำทั้งด้านหน้าและห้องโดยสาร เพิ่มเติมด้วยลูกเล่นหลากหลายเพื่อประโยชน์ใช้สอยสูงสุด เช่น ช่องต่อกระแสไฟฟ้า 230 โวลต์ที่ให้คุณเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้ากับรถยนต์ ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือไปพักผ่อนสุดสัปดาห์

– สร้างมาเพื่อความแกร่ง และปลอดภัย ความแข็งแกร่งต้องมาพร้อมกับความปลอดภัย ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ให้คุณและคนที่คุณรักปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด รวมไปถึงถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านนิรภัย ผสานกับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ที่ช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด จึงทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ปลอดภัยกว่าที่เคย

– พร้อมลุยงานหนักด้วยความนิ่มนวลอย่างมีระดับ ด้วยความนิ่มนวลในทุกการเดินทางกับฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ทำให้นิยามของการเดินทางด้วยรถกระบะเปลี่ยนไป กระจังหน้าโครเมี่ยมและดีไซน์ด้านหน้า ที่ดูแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ดูทรงพลังกว่าเคย

แต่ภายในก็ยังคงเน้นพื้นที่โดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย และตอบสนองการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ปุ่มควบคุมต่างๆ ถูกจัดวางให้เห็นอย่างเด่นชัดและสะดวกต่อการใช้งาน และยังเพิ่มพื้นที่เก็บของ พร้อมลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือนจากภายนอก เพิ่มความหรูหราด้วยเบาะหนังแท้ ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการใช้งานส่วนตัว

– ต่อไฟฟ้าได้ตลอดเวลา ไฟส่องสว่างที่กระบะท้ายให้คุณทำงานได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันหรือกลางคืน แต่บางทีงานของคุณอาจจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การขนถ่ายสัมภาระ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้เพิ่มช่องต่อกระแสไฟฟ้า 230 โวลต์ไว้ในห้องโดยสาร เพื่อให้คุณสามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต หรือเสียบปลั๊กเพื่อใช้ไฟไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

– พื้นที่ด้านหลังที่กว้างขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร ด้วยพื้นที่ที่กว้างขึ้นในรุ่น Double Cab ประตูที่ใหญ่ขึ้นและเสาประตูหลังที่ถูกขยับออก ทำให้การเข้าออกรถง่ายขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะสำหรับคนหรือสัมภาระ

– ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติและระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ในสภาพภูมิอากาศที่ย่ำแย่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ช่วยให้คุณใส่ใจกับการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ซึ่งจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อฝนตก ในขณะที่ไฟหน้าจะเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อแสงภายนอกไม่พอ ทำให้การขับขี่ของคุณ ปลอดภัยและง่ายกว่าที่คุณเคยสัมผัส

อุปกรณ์ตกแต่ง FORD RANGER 2016

แผงกันแมลงฝากระโปรงหน้า

ชุดกันสาดประตู

ชุดครอบกันกระแทกโคมไฟหน้า

ชุดท่อไอดีอากาศเข้าเครื่องยนต์

ชุดครอบกันกระแทกขอบกระบะ

ชุดฝาปิดกระบะท้าย

พื้นปูกระบะแบบซ่อนใต้ขอบกระบะ

พื้นปูกระบะแบบคลุมขอบกระบะ

ล้ออัลลอยขนาด 18″

ล้ออัลลอยขนาด 18″

ผ้าคลุมรถ

ชุดกันชนเสริมด้านหน้าสเตนเลส

ชุดล็อกกันขโมยล้ออะไหล่

ชุดลากรถด้านท้าย

Britax BABY-SAFE plus SHR II

ชุดเบาะนั่งเด็ก Britax DUO Plus

ชุดพรมปูพื้นห้องโดยสาร

ชุดชายบันไดสเตนเลส

ชุดหัวคันเกียร์หุ้มหนัง

ชุดป้ายสัญญาณเตือนฉุกเฉิน

กล้องบันทึกวีดีโอหน้า

ม่านบังแดด

COLORS สี FORD RANGER

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีให้เลือก ทั้งหมด 8 สี ได้ แก่ 1.สีส้ม  2.สีขาว  3.สีดำ  4.สีบรอนซ์เงิน  5.สีเทาดำ  6.สีแดง  7.สีน้ำเงิน  และ 8.สีฟ้า

FORD Ranger สีส้ม Pride Orange (เฉพาะรุ่น WILDTRAK)

FORD Ranger สีขาว Cool White

FORD Ranger สีดำ Black Mica

FORD Ranger สีบรอนซ์เงิน Aluminnum Metallic

FORD Ranger สีเทาดำ Metropolitan Grey (เฉพาะรุ่น WILDTRAK, XLT และ FX4)

FORD Ranger สีแดง True Red (เฉพาะรุ่น XLT, XLS)

FORD Ranger สีน้ำเงิน Aurora Blue (เฉพาะรุ่น XLT, XLS)

FORD Ranger สีฟ้า Reflex Blue (เฉพาะรุ่น XLT)

บริการหลังการขาย
– ฟรี! สิทธิเข้ารับบริการเช็กระยะที่ศูนย์บริการฟอร์ด โดยไม่คิดค่าแรงถึง 45 เดือน หรือ 75,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะไดถึงก่อน)
– โปรแกรมจัดส่งอะไหร่ใน 24 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางบริษัทฯ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ford.co.th.
– ระยะทางเข้ารับบริการทุกๆ 15,000 กม. / 9 เดือน ช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาให้ต่ำลง
– โปรแกรมขับขี่อุ่นใจ
– โปรแกรมขับขี่อุ่นใจ (Premium Protection Plus) สามารถขยายระยะการรับประกันคุณภาพของรถสูงสุุดนานถึง 5 ปี / 150,000 กม. ด้วยราคาบริการและช่วงเวลาที่คุณเลือกได้ ไม่ต้องจ่ายแพงกว่าพร้อมบริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานฟอร์ดทั่วประเทศ
– โปรแกรมบำรุงรักษารถตามระยะ (Scheduled Service Plan) ช่วยให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ในการบำรุงรักษารถตามระยะได้ถึง 15% ไม่ว่าน้ำมันหล่อลื่น ค่าอะไหล่หรือค่าแรงจะมีการปรับราคาสูงขึ้นในอนาคต
– รางวัลสูงสุดด้านความปลอดภัยจาก ASEAN NCAP
– รับประกันคุณภาพรถนานถึง 3 ปี / 100,000 กม.